Twilight




















pictured by Thailand Biennale Official Catalogue Photographers

pictured by Thailand Biennale Official Catalogue Photographers

pictured by Thailand Biennale Official Catalogue Photographers

Twilight, 2018, Sound Art (7 tracks, 52 minutes) and three (chromium plating on fiberglass) para rubber sculptures, four wireless bluetooth headphones, two dual bluetooth wireless audio transmitter, two MP3 players

size :  193 cm in height with diameter 20 cm. (the sculpture at the bow area) /  164 cm in height with diameter 14 cm. (the sculpture in the middle of the boat) / 176 cm in height with diameter of 10 cm. (the sculpture at the stern side) / 25 cm in height with diameter of 20 cm. (each metal bucket).

track 01: 2 min / track 02 : 3 min / track 03 : 4 min / track 04 : 6 min / track 05 : 7 min / track 06 : 8 min / track 07 : 4 min / track 08 : 5 min / track 09 : 6 min / track 10 : 7 min 

มุ้งมิ้ง ๒๕๖๑ ซาวน์ อาร์ต (๗ แทรค ๕๒ นาที) และประติมากรรมต้นยางพารา ไฟเบอร์กลาสชุบโครเมียม จำนวนสามชิ้น หูฟังไร้สายบลูทูธจำนวนสี่อัน อุปกรณ์ส่งสัญญานเสียงบลูทูธจำนวนสองตัว เครื่องเล่นเพลงMP3 จำนวนสองเครื่อง 

ขนาด ประติมากรรมบริเวณหัวเรือ ความสูง ๑๙๓ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง ๒๐ ซม. ประติมากรรมบริเวณกลางลำเรือ ความสูง ๑๖๔ ซม.​ เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑๔​ ซม. ประติมากรรมบริเวณท้ายเรือ ความสูง ๑๗๖ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง ๑๐ ซม. ถังเหล็กแต่ละใบ ความสูง ๒๕ ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง ๒๐ ซม.

แทรค ๑ สองนาที / แทรค ๒ สามนาที / แทรค ๓ สี่นาที / แทรค ๔ หกนาที / แทรค ๕ เจ็ดนาที / แทรค ๖ แปดนาที / แทรค ๗ สี่นาที / แทรค ๘ ห้านาที / แทรค ๙ หกนาที / แทรค ๑๐ เจ็ดนาที

concept : The project starts with connecting three venues of Thailand Biennale (in Krabi province) together; Tha Pom Klong Song Nam Mangrove Swamp, Khao Kha Nab Nam Mountain and Nopparat Thara Beach. These three places have its own distinction, the Tha Pom Klong Song Nam Mangrove Swamp for the richness of nature, the Khao Kha Nab Nam Mountain for its quietness, the serendipity and the Nopparat Thara Beach notes for a port to open sea where the conveyances are.

During the twilight time in March, July and September, the pattern of the bat's movement flying in and out of the cave at the Khao Kha Nab Nam Mountain are recorded synchronously with the sounds of birds, animals, insects, rain, wind and local residents at the Tha Pom Klong Song Nam Mangrove Swamp. 

The recorded sounds from the mangrove swamp are edited by following rhythms of the bat flying out of the cave. The bats are acted as a conductor and the insects, birds, animals in the mangrove swamp are acted as an orchestra. The duration of each audio track is based on the lunar cycle of the recorded day, signifying the uniqueness of nature. For example, the length of the first track is two minutes due to the waxing crescent moon on the recorded day.

The sound outputs are installed in the three shiny metallic para rubber sculptures on a long-tailed boat in the Nopparat Thara Beach. The passengers on the long-tailed boat hear the soundtrack and see the moving scenery of the sea; this can be deemed as a moveable concert hall. The whole experience creates the alienated and contradicting phenomena; the visible versus the invisible, technology versus nature and planning versus improvisation.

แนวคิด การเชื่อมโยงพื้นที่สามแห่งเข้าด้วยกัน ได้แก่ ป่าพรุของท่าปอมคลองสองน้ำ ถ้ำค้างคาวเล็กในเขาขนาบน้ำ และท้องทะเลบริเวณหาดนพรัตน์ธารา เสียงสิ่งมีชีวิตต่างๆในป่าพรุ เช่น นก สัตว์ แมลง คนท้องถิ่น รวมไปถึงสภาพอากาศ เช่น ฝน ลม ได้ถูกบันทึกในเวลาเดียวกัน (ช่วงสนธยา) กับการเข้าออกของค้างคาวที่เขาขนาบน้ำ ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน 

ข้อมูลเสียงในป่าพรุจะถูกตัดต่อตามจังหวะการเข้าออกถ้ำของค้างค้าว ค้างคาวจึงเป็นดั่งวาทยากร เสียงสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆในป่าพรุจึงเป็นดั่งวงออร์เคสตรา และเสียงที่ประพันธ์จะนำไปติดตั้งไว้ที่ประติมากรรมบนเรือหัวโทงที่แล่นในทะเล เรือจึงเปรียบเหมือนคอนเสิร์ตฮอลล์ที่เคลื่อนที่ได้ ความยาวของไฟล์เสียงในแต่ละแทรคสัมพันธ์กับ ตัวเลขข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ในวันที่บันทึกข้อมูล เช่น ความยาวของไฟล์เสียงแทรคที่หนึ่ง คือ สองนาที เพราะวันที่บันทึกเสียงเป็นวันข้างขึ้น ๒ ค่ำ แทรกที่ห้าความยาวเจ็ดนาทีเพราะเป็นวันข้างขึ้น ๗ ค่ำ การบันทึกข้อมูลการเข้าออกถ้ำของค้างคาวทำในช่วงฤดูต่างๆของปี คือ มีนาคม กรกฎาคม และกันยายน เพื่อให้ได้ความถี่ในการเข้าออกถ้ำของค้างคาวที่แตกต่างกัน

ผู้โดยสารหรือผู้ชมผลงานในเรือหัวโทงที่ติดตั้งผลงาน จะได้ยินเสียงที่ประพันธ์จากค้างคาวจากสิ่งมีชีวิตในป่าพรุ จากประติมากรรมต้นยางพาราสีเงินที่ดูคล้ายกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และชมทิวทัศน์ทะลสองข้างทางที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ  

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความแปลกแยกและขัดแย้งกันระหว่าง สิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เทคโนโลยีกับธรรมชาติ การวางแผนกับการด้นสด