#LetBygonesBeBygones _ Memo



เผยแพร่ออนไลน์ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ : บันทึก (เชิงอรรถ)
๑๕ เมษายน ๒๕๖๓ : หลังจากที่ตั้งเค้ามาหลายครั้ง ในที่สุดฝนก็ตกลงมา ช่วยล้างฝุ่นควัน และทำให้อากาศสะอาด นานแล้วที่ไม่ได้สูดหายใจได้เต็มปอด
๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓ : พื้นแกลเลอรี่ชื้นจากฝนตกหนักเมื่อคืน มีน้ำซึมบนชิ้นงานที่เป็นกระดาษบางส่วน ไม่นานน่าจะมีราขึ้นบนผลงาน



เผยแพร่ออนไลน์ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓  : บันทึกการสร้างงาน (การก่อรูป)

ตอนที่กลับมาจากงานเลี้ยงวันส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๒ในตัวเมือง เลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซด์ลัดดอยไปบ้านเช่าที่บ้านปงเหนือ แทนการไปทางถนนใหญ่ ซึ่งอ้อมกว่าเกือบสิบกิโลเมตร รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายกว่า แต่ด้วยความอยากถึงบ้านเร็ว จึงเลือกขี่ไปในความมืด เมื่อเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประมาณหนึ่งในสามของเส้นทาง ได้กลิ่นไหม้ฉุนจมูก ขี่ต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกแสบตามาก  ต้องขี่โดยการหรี่ตาและรีบหลับตาเป็นพักๆ ในเส้นทางที่มืด คดเคี้ยวและสูงชัน

ประสบการณ์ในคืนนั้น ทำให้เริ่มที่จะตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 จากแอพพลิเคชั่น IQ AirVisual ในโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ซึ่งปกติจะตรวจดูค่าฝุ่นในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน ทุกครั้งที่เปิดเช็คค่าฝุ่นในแอพฯ จะแคปเจอร์หน้าจอไว้

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ อากาศแย่กว่าทุกปีที่ผ่านมา ค่าฝุ่นอยู่ในขั้นมีผลต่อสุขภาพ เลยเริ่มเปิดเช็คค่าฝุ่นถี่ขึ้นกว่าช่วงเดือนมกราคม โดยเช็คค่าฝุ่นทุกๆสองถึงสามชั่วโมง และตรวจสอบค่าฝุ่นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นชั่วโมงเว้นชั่วโมงในช่วงปลายเดือน และทุกชั่วโมงในเดือนมีนาคมและเมษายน



บันทึกและเผยแพร่ออนไลน์ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

ในช่วงสัปดาห์นี้ ฝุ่น PM2.5 เริ่มปรากฎตัวอีกครั้งทั้งในเชียงใหม่และกรุงเทพ โดยเช้านี้ค่าฝุ่นอยู่ในขั้นมีผลต่อสุขภาพ ทั้งที่เชียงใหม่และกรุงเทพ (หางดง ๑๕๒ / กรุงเทพ ๑๕๗) ทางสภาลมหายใจเชียงใหม่ ได้ทำรายการ "ความรู้สู้ฝุ่น" ตัวอย่างบางตอนจากทางรายการ podcast ในการรับมือกับฝุ่นพิษนี้

 "ฝุ่นละอองมันเล็กมาก มันไม่ได้อยู่แค่ทางเดินหายใจ มันซึมผ่านถุงลม เข้าสู่กระแสเลือดได้ และมันก็ไปทั่วร่างกาย ปีๆหนึ่งมีคนตายจากมลพิษทางอากาศ เขาก็ประเมินแล้ว ประมาณเกือบครึ่งแสน ซึ่งอาจจะมาจากหลายโรค โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งปอด โรคติดเชื้อในปอด PM2.5 เป็นปัจจัยเสี่ยง มันไม่ใช่ชื่อโรค หมอเขาเขียนมรณบัตรว่าตายจาก PM2.5 แต่ตายจากโรคที่ PM2.5 ทำให้เกิด"

- นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ 

"ปีที่ผ่านมา ปีที่แล้วกับปีนี้ ฝนไม่ตก ลมไม่มี ลมนิ่งนะคะ สี่เดือนที่เราอยู่กันในภาคเหนือเนี่ย ต้องเผชิญกับ...เรียกว่าภัยพิบัติ แต่ทางการไม่สามารถจะประกาศภัยพิบัติทางอากาศได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบการท่องเที่ยว ซึ่งนี้เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งนะคะ"

- ครูแดง เตือนใจ ดีเทศน์




เผยแพร่ออนไลน์ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ : บันทึกการติดตั้งงาน (นอนมา) ณ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔

เจ้าของแกลเลอรี่แสดงความเห็นว่า ควรจะต้องซื้อแผ่นกระจกมาเหยียบดูก่อน เพื่อทดสอบว่ากระจกจะแตกมั้ย แตกเป็นลายยังไง และต้องใช้กระจกหนากี่มิลลิเมตร ตอนที่คุยกันตอนต้นเดือนกันยายน แต่เมื่อคิดดูแล้ว เลือกที่จะเชื่อในสัญชาตญาณว่า ความตื่นเต้นต่องานจะหมดไป ถ้าทดลองทุกอย่างก่อนการติดตั้งผลงาน เลยปฏิเสธเขาไป 

หลายครั้งในการทำอินสตอลเลชั่น เลือกที่จะเก็บความตื่นเต้น ความเสี่ยง รอลุ้นว่างานจะออกมาเป็นลักษณะยังไงในห้องนิทรรศการเลย จะไม่ลองจัดการ เซ็ตอัพผลงานเพื่อตรวจสอบดูความเรียบร้อย ความสมบูรณ์ก่อนหน้าที่จะนำผลงานไปติดตั้งในแกลเลอรี่ ไปแก้ปัญหาหน้างานเอา การแก้ปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานอินสตอลเลชั่น ความยืดหยุ่นเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้การติดตั้งงานดำเนินต่อไปข้างหน้าจนเสร็จสมบูรณ์ 

เมื่อทดลองใช้หัวแร้งบัดกรีไฟฟ้าจี้เข้าไปที่ผิวของไม้อัดเพื่อขีดเขียนตัวหนังสือต่างๆที่เป็นค่าฝุ่น PM2.5 แล้วไม่เกิดผลตามที่คาดการณ์ไว้ แผนที่คิดเอาไว้ในตอนแรกสุดของการคิดงาน คือ การใช้เทคนิคแกะไม้ (woodcut) เลยถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เลือกฟอนต์ตัวหนังสือที่ไม่มีหัว เพื่อให้ง่ายต่อการแกะ น้องศิลปินที่ทำงานด้วยเทคนิคแกะไม้ ถูกตามมาช่วยให้งานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและประณีต



เผยแพร่ออนไลน์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ :  : บันทึกการคิดงาน (คมในฝัก) ณ วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๓

เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เริ่มสนใจฝาท่อระบายน้ำ ที่สามารถขึ้นไปเหยียบได้และมีพื้นที่ว่างอยู่ด้านล่าง แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาไปทำเป็นงานได้ยังไง พอเจ้าของแกลเลอรี่ซีสเคปชวนแสดงงาน และบอกว่าถ้าอยากจะรื้อพื้นแกลเลอรี่ก็สามารถทำได้ ฝาท่อระบายน้ำเลยกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้งหนึ่ง

กระจกบานหนาๆเป็นวัสดุแรกที่คิดจะเอามาใช้รับน้ำหนักคน แต่ราคาน่าจะแพงมาก เหล็กสี่เหลี่ยมตัน เหล็กเพลาเป็นตัวเลือกที่สอง ซึ่งราคาก็ไม่น่าจะต่างไปจากกระจกบานหนา ลองค้นหาข้อมูลตาข่ายรับน้ำหนักแบบที่ให้นักท่องเที่ยวนั่งเอกเขนกหรือนอนเล่น ตามรีสอร์ทหรือร้านกาแฟ แต่ระหว่างที่ค้นข้อมูลวัสดุที่เป็นตาข่ายนี้ พบข่าวอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวตกเปลตาข่าย ต่าข่ายจึงไม่น่าจะใช่ตัวเลือกที่ดี 

ในเดือนสิงหาคม เมื่อแกลเลอรี่เปิดให้ชมนิทรรศการหลังพ้นช่วงล็อกดาวน์โควิดทั่วประเทศ ทำให้ได้เข้าไปดูโครงสร้างของแกลเลอรี่อีกครั้ง และลองปรึกษาเจ้าของแกลเลอรี่เกี่ยวกับวัสดุรับน้ำหนัก เจ้าของแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องใช้เหล็กตัน ใช้แค่ตะแกรงเหล็กฉีกก็น่าจะรับน้ำหนักคนได้ เพราะช่องว่างระหว่างโครงเหล็กที่เป็นพื้นของแกลเลอรี่ กว้างประมาณหกสิบเซนติเมตรต่อช่อง ไม่กว้างมาก ตระแกรงเหล็กฉีกน่าจะรับน้ำหนักได้

ในวันที่ร้านค้าเอาตระแกรงเหล็กฉีกมาส่งที่แกลเลอรี่ เมื่อเจ้าของแกลเลอรี่ลองเอานิ้วลูบที่ผิวตะแกรงเหล็กฉีก พบว่าด้านในของตะแกรงฉีกแต่ละช่องมีความคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน คนที่มาส่งตระแกรงแนะนำว่า ถ้าอยากจะลบคม ให้ทาสีสองสามชั้นเคลือบตระแกรง ส่วนวิธีการเจียรลบคม คงไม่น่าจะไหว เพราะมีจำนวนช่องหลายพันช่องให้ลบคม การทาสีเคลือบก็อาจจะทำให้ความมันเงาสะท้อนแสงของโลหะถูกกลบไป ป้ายเตือนให้ระวังความคมของตระแกรงเหล็กจึงถูกทำขึ้น เพื่อให้คนที่มาชมงานไม่จับ สัมผัส นั่งหรือคุกเข่าบนพื้นตระแกรงเหล็กฉีก

เมื่อนิทรรศการเสร็จสิ้น โชคดีที่ไม่มีใครสักคนที่ได้รับบาดเจ็บ จากตระแกรงฉีกหรือบานกระจกจากนิทรรศการนี้



เผยแพร่ออนไลน์ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ :  : บันทึกการติดตั้งงาน (มาไม้ไหน ไม่ต้องไปไม้นั้น) ณ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔       

แผ่นไม้อัดถูกลำเลียงจากรถกะบะมากองไว้ในบนพื้นมุมหนึ่งในห้องนิทรรศการห้องเล็ก คนขนไม้ยกแผ่นไม้อัดผ่านหน้า สังเกตเห็นว่าลวดลายด้านหลังของแผ่นไม้บางแผ่นมีความน่าสนใจกว่าด้านหน้า เมื่อเริ่มติดตั้งแผ่นไม้บนฝาผนังห้องนิทรรศการใหญ่ เริ่มเห็นว่าลายด้านหน้าของแผ่นไม้บางแผ่น เป็นโทนสีสว่างสลับสีเข้ม คล้ายทางม้าลาย จึงตัดสินใจที่จะพลิกกลับและใช้ด้านหลังของไม้แทน

ครึ่งหนึ่งของฝาผนังห้องนิทรรศการใหญ่ จึงมีลวดลายเป็นเส้นโค้งวนคล้ายเส้นชั้นความสูง (contour line) 
ที่เกิดจากลายด้านหลังของแผ่นไม้ ในการวางแผนสำหรับนิทรรศการ ความตั้งใจเริ่มแรกคือการใช้ลายภูเขาของไม้สักอิตาลีมาปิดฝาผนังทั้งหมด ลักษณะเดียวกับวอลเปเปอร์ แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายดูแล้ว น่าจะต้องใช้ต้นทุนที่สูง จึงได้เปลี่ยนมาใช้แผ่นไม้อัดที่ราคาถูกกว่าสามเท่า ไปๆมาๆดูเหมือนว่า ลายข้างหลังของแผ่นไม้กลับดูดีกว่าลายภูเขาที่ตั้งใจไว้

เมื่อฝาผนังเปลี่ยนจากผนังสีขาวเป็นผนังไม้ทั้งสี่ด้าน คิวเรเตอร์ของนิทรรศการเดินเข้ามาดูความคืบหน้าของการติดตั้ง พอเขาเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในห้องจัดแสดง เขาเอ่ยออกมาว่า ผนังไม้อัดทำให้ห้องจัดแสดงดุไม่เหมือนแกลเลอรี่ เหมือนห้องสไตล์สวีดิช ส่วนเจ้าของแกลเลอรี่แซวว่า ดูเหมือนกับบ้านพักคนงานในไซต์ก่อสร้างมากกว่า

วัสดุทีเป็นไม้ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น ในขณะที่วัสดุที่เป็นตะแกรงเหล็กฉีก ปูนและดหล็กให้ความรู้สึกตรงกันข้าม การที่วัสดุมีผลต่อการรับรู้ทางอารมณ์นี้ น่าจะเป็นพลผวงของความคิดจากวัฒนธรรมตะวันตก คิวเรเตอร์บอกว่าวัสดุธรรมชาติให้ความรู้สึกอบอุ่น และเปลี่ยนแปลงความคุ้นชินของห้องแสดงนิทรรศการ ที่มักจะเป็นห้องเรียบๆผนังขาว (white cube) ในขณะที่เจ้าของและสตาฟของเแกลเลอรี่รวมไปถึงคาเฟ่ที่ติดกับแกลเลอรี่ ไม่ได้รู้สึกว่าไม้จะให้ความอบอุ่น และเหล็กจะดูเยือกเย็น สตาฟหลายคนบอกว่าห้องนิทรรศการด้านนอก พอเปลี่ยนฝาผนังเป็นไม้แล้ว ดูเหมือนกับห้องนั่งเล่นในบ้านมากว่าห้องนิทรรศการ คิวเรเตอร์แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ว่า การที่คนไทยมีอารมณ์ความรู้สึกกับวัสดุแตกต่างกับคนตะวันตก อาจจะเป็นเพราะเมืองไทยอากาศร้อนทั้งปี ซึ่งต่างจากประเทศในทวีปตะวันตกที่มีหลากหลายฤดูกาล





เผยแพร่ออนไลน์ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ :  : บันทึกการติดตั้งงาน (รื้อฟื้น - รื้อพื้น) ณ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔       

พื้นวีว่าบอร์ดสีเทาเข้มสองแผ่น ค่อยๆถูกงัดขึ้นมาจากฐานโครงสร้างเหล็กของพื้นด้านล่างของห้องนิทรรศการใหญ่

ครั้งแรกของการรื้อพื้นแกลเลอรี่เกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๗ โดยศิลปินหญิงอเมริกัน Ali Van ในนิทรรศการชื่อยาวๆว่า "d.t.e.m.h. (whence with (in) a garden an egg gave breath)" พื้นแกลเลอรี่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นชานที่นั่ง คนดูนั่งห้อยขาในหลุมตรงกลางของแกลเลอรี่ ที่เกิดจากการรื้อพื้นวีว่าบอร์ดบริเวณตรงกลางของห้องนิทรรศการออก เผยให้เห็นพื้นปูนของโครงสร้างเดิม ผลงานสองมิติติดอยู่ที่ฝาผนังรายรอบห้องจัดแสดง 

ครั้งที่สองเกิดขึ้นในนิทรรศการ Unveil Escape โดยศิลปินหญิง กวิตา วัฒนะชยังกูร ในปี ๒๕๖๒ พื้นวีว่าบอร์ดสีเทาเข้มสองแผ่นตรงกลางห้องแสดงถูกรื้อออก กลายเป็นหลุมสี่เหลี่ยมสีแดง ใช้เป็นพื้นที่ทักทองานเพอร์ฟอร์มมานซ์อาร์ต ที่มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม

การรื้อพื้นครั้งแรกและครั้งที่สองเป็นการรื้อเพียงพื้นตรงกลางของแกลเลอรี่ แต่ในนิทรรศการ "#ที่แล้วก็แล้วไป" พื้นวีว่าบอร์ดจะต้องถูกรื้อถอนออกทั้งหมด 

ในการรื้อพื้นที่ส่วนที่ติดกับพื้นที่ภายนอกของแกลเลอรี่ ตรงบริเวณประตูเลื่อนขนาดใหญ่ที่ล็อคแม่กุญแจไว้ (ทางเข้าเดิมของแกลเลอรี่) เมื่อเปิดประตูออก จะเห็นโครงซีลายน์ของผนังที่ทำขึ้นใหม่ และเมื่อลองสำรวจดู พบว่าโครงซีลายน์กดทับและยืดอยู่บนพื้นวีว่าบอร์ดบางส่วน เมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น เจ้าของแกลเลอรี่ไม่ลังเล ที่จะงัดโครงซีลายน์ท่อนล่างออก และถอนตะปูที่ยึดโครงซีลายน์กับพื้นวีว่าบอร์ด ก่อนที่จะใช้ชะแลงเหล็กงัดวีว่าบอร์ดในบริเวณนั้นออกมาทีละแผ่น

เมื่อพื้นที่ด้านล่างถูกเปิดออก มีจอมปลวกรูปทรงคล้ายเจดีย์ สูงหนึ่งฟุตปรากฎอยู่ที่พื้นปูนด้านล่าง มุมด้านในติดกับผนังภายนอกอาคาร เหล่าปลวกพากันวิ่งแตกกระเจิง ตรงมุมห้องด้านหนึ่ง ฝั่งที่ติดกับผนังห้องนิทรรศการเล็ก มีร่องรอยของกระเบื้อลายหมากรุกขาวดำ(พื้นห้องครัว) ซึ่งดูคล้ายกับงานเพ้นท์ติ้งที่จะวางลงไป ตอนติดตั้งงานจึงเว้นส่วนที่เป็นกระเบื้องขาวดำนี้ไว้ ไม่ปิดทับ




เผยแพร่ออนไลน์ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ : บันทึกการทำงาน ณ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๓

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสารหน่วงไฟ มาดับไฟที่ปะทุบนดอยสุเทพ ถ้าเป็นปีที่ผ่านมา จะได้ยินแต่เสียงไซเรนของรถดับเพลิง ความช่วยเหลือนี้น่าจะเป็นผลมาจาก ภาพถ่ายไฟไฟม้ป่าบนดอยสุเทพ-ปุยของทีมโดรนอาสา ที่เผยแพร่ในโลกโซเชี่ยลจนเกิดเป็แฮชแท็ก "#savechiangmai" ภาพที่เผยแพร่เป็นภาพถ่ายมุมสูง มองเห็นเส้นเปลวเพลิงสีเหลืองส้มจำนวนมาก ที่กรีดลงบนดอย สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับคนในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก จนทีมโดรนอาสาโดนคำสั่งห้ามเผยแพร่ภาพมุมสูงอีก เพราะทำให้"ผู้ใหญ่"ไม่สบายใจ การกลัวเสียหน้าของฝ่ายราชการ กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญกว่าการดับไฟป่า คนในเมืองเริ่มที่จะรวมตัวกันเป็นทีมอาสาดับไฟป่า ส่วนคนที่อยู่เมืองอื่นก็ช่วยกันส่งเงินบริจาคมาให้กับทีมอาสาดับไฟป่า กลายเป็นประชาชนช่วยประชาชน หมอกพิษที่เป็นวิกฤตของเมือง กลับไม่ถูกจัดเป็นปัญหาระดับชาติ 

ภาพการเสียชีวิตและบาดเจ็บของอาสาสมัครดับไฟป่า ภาพสัตว์ป่าที่ถูกไฟคลอก ที่ลุกลามในโลกออนไลน์ สร้างความกังวลและห่วงใยของคนในชาติ วันนี้ก็มีข่าวเจ้าหน้าที่ไฟป่าผูกคอฆ่าตัวตาย ทิ้งจดหมายลาตาย ที่เขียนว่า "แก้อะไรไม่ได้ มีเด็กนาย เด็กกูเสมอ" ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการคิดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องมากกว่าส่วนรวม




เผยแพร่ออนไลน์ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๓ :  : บันทึกการทำงาน ณ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๔  

หกนาฬิกาห้านาที เสียงประกาศของครูบาวัดอรัญญาวาส ผ่านเครื่องขยายเสียงตามสายชุมชน "วันนี้เป็นวันที่ ๑๒ แล้วที่ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งถ้าจำนวนคนติดเชื้อไม่เพิ่มมาก ก็น่าที่พระสงฆ์ น่าที่จะกลับไปบิณฑบาตได้ แต่ก็อย่าเพิ่งประมาท ยังคงต้องสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างกัน"

ช่วงเที่ยงกว่า ได้กลิ่นเผาไหม้โชยมา เมื่อเปิดแอพฯบนโทรศัพท์ ฝุ่นควันอยู่ในเกณฑ์สีแดง ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ (Unhealthy) ตัวเลขปรากฎที่ ๑๖๔

คนที่อยู่เชียงใหม่มักจะบอกว่า หางดงและแม่ริมโดนฝุ่นควันมากที่สุด และก็เป็นจริงตามที่เขาพูดกัน แต่ปีนี้ฝั่งหางดงโดนหมอกควันหนักกว่าฝั่งแม่ริมมาก




เผยแพร่ออนไลน์ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ :  : บันทึกการทำงาน ณ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๔  

พอฝุ่นพิษเล่นงานติดต่อกันทุกคืน เลยลองหาดูว่าตรงไหนของเชียงใหม่ที่มีฝุ่นควันน้อย จะได้ไปหาห้องเช่ารายวันราคาถูกอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อลองถามเพื่อนว่า มีห้องพักที่ไหนราคาถูกๆ เขาหยอกกลับมาว่า ถ้าติดโควิดจะตายเร็ว แต่มะเร็งปอดตายช้ากว่า เพราะตอนนี้คนที่เช่าห้องพัก โรงแรม เป็นคนมาจากที่อื่น หรือนักท่องเที่ยว หน้ากากผ้าก็ป้องกันไวรัสไม่ได้

หน้ากากอนามัย จากที่แต่ก่อนชิ้นละ ๒.๕๐ บาทขึ้นราคามาเท่าตัวเป็น ๕ บาท แล้วขยับเป็น ๑๐ บาท จนกลายเป็นของหายาก ขาดตลาด ป้าเจ้าของร้านขายยา ตรงทางเข้ากาดต้นพยอมบอกว่า มีคนจีนมาเหมาซื้อหน้ากากอนามัยไปสองลังตอนช่วงปลายเดือนกุมภาฯ เพื่อส่งไปช่วยคนในประเทศเขาที่ติดไวรัสโคโรน่า จะไม่ขายให้เขาก็รู้สึกแย่ แต่พอขายเขาไป ก็ไม่มีของขายหน้าร้าน





เผยแพร่ออนไลน์ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๓ :  : บันทึกการทำงาน ณ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๔  

ช่วงเดือนมีนาคม มีข่าวจับกุมมือเผาที่บ้านปงได้หลายราย จนคิดว่าไฟป่าน่าจะเบาบางลง 

แต่พอต้นเดือนเมษายน กลับรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นเรื่อยๆคล้ายโดนของหนักทับ เจ็บตรงกลางอก และปวดร้าวด้านซ้ายและขวาของหน้าอก เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู ตัวเลขสามร้อยกว่าบนแถบสีม่วงเข้มปรากฎบนแอพฯIQ AirVisual แม้ว่าจะปิดหน้าต่างทุกบานแล้วก็ตาม ฝุ่นควันก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้ เดินไปหยิบหน้ากากมาคาดแล้วล้มตัวนอน อึดอัดแต่ก็ต้องทน เพื่อไม่ให้ฝุ่นพิษเข้าไปในปอดมากขึ้นเรื่อยๆ นอนหลับๆตื่นๆ เพราะการใส่หน้ากากทำให้นอนเกร็ง และเมื่อยไปทั้งตัว 

ใส่หน้ากากนอนได้สามคืน คืนที่สี่ตัดสินใจไม่ใส่ เพราะเริ่มกลัวว่า หน้ากากจะรัดหน้ามากขึ้นเรื่อยๆจากผลของการนอนกลิ้งไปมา จนอาจทำให้ไม่ตื่นได้





เผยแพร่ออนไลน์
 ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๓ : 
 : บันทึกการทำงาน ณ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๔  

 ป้าน้อยเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวตรงหัวโค้ง ทางเข้าวัดอรัญญาวาส ท้วงติงลูกค้าผู้ชายสองคนที่มากินด๋วยเตี๋ยวว่า เมื่อวานนี้ไม่เห็นมาช่วยดับไฟที่วัดเลย มีแค่น้องผู้ชายกู้ภัยสองคน ตอนแรกเหมือนว่าจะควบคุมไฟได้ แต่พอลมมา ไฟเลยลามขึ้นมาใหม่ อย่างน้อยไปช่วยยืนให้กำลังใจน้องที่กำลังดับไฟก็ยังดี 

คนที่เผาบันไดวัดเป็นคนเดียวกันกับที่เผาตรงซอยห้า(บ้านปง) เผาซอยห้าเสร็จก็มาเผาแถววัดต่อ มาก่อกวน ตอนที่มันเผา น้องกู้ภัยเห็นควัน แล้วก็รีบขึ้นไป แต่ไม่ทัน คนเผาหนีไปก่อน รู้กันว่าเป็นใคร แต่ยังไม่มีหลักฐานในการที่จับกุม




เผยแพร่ออนไลน์ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ :  
 บันทึกการทำงาน ณ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔  

"ขอประชาสัมพันธ์ให้ยัง พ่อแม่พี่น้องศรัทธาบ้านปงเฮา ทุกหลังคาเรือน ทุกคนทุกท่าน เนื่องจากว่าตอนนี้ไฟป่าได้ไหม้ที่บริเวณลุ่มดอยพระธาตุ ซึ่งก็ใกล้กับบันไดนาค ใกล้กับท่อส่งน้ำขึ้นบนดอย และตอนนี้ก็ น้องๆกลุ่มเยาวชนบ้านปงเฮาเน้อ ขอให้มาช่วยกันดับไฟ อันไฟป่ามันคงจะไหม้เองบ่ได้ คงจะมีผู้ไม่หวังดี ได้จุดไฟ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ บริเวณลุ่มพระธาตุบ้านปงของเฮานี้ ซึ่งเฮาท่านทั้งหลายก็ได้ช่วยกันดูแลฮักษา ให้เป็นป่าชุมชน มันเขียว มันขจี มันมีมานาน ตอนนี้ไฟไฟม้ ก็กลัวว่าต้นไม้น้อยๆ มันจะตาย ไฟลวกมัน ใครอยู่บ้าน ได้ยินก็ มาช่วยกันดับกันเน้อ"
- เสียงประกาศจากเจ้าอาวาสอรัญญาวาส จ.เชียงใหม่